
BOTOX
มหัศจรรย์แห่งการบอกลาริ้วรอย เพิ่มความงาม
โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) หรือที่รู้จักกันดีในนาม โบท็อกซ์ (Botox) กลายเป็นเพื่อนแท้ความงามที่ไม่มีใครปฏิเสธประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการใช้เป็นตัวช่วยในการจัดการกับริ้วรอยบนใบหน้า ตั้งแต่รอยหางตา หว่างคิ้ว ริ้วรอยใต้ตา รอยย่นที่หน้าผาก และจมูก ไปจนถึงช่วยปรับรูปหน้า ลดกราม ยกคิ้ว ฉีดลดปีกจมูก ปรับรูปคาง คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า โบท็อกซ์ (Botox) คือมหัศจรรย์แห่งการบอกลาริ้วรอย และเพื่อนแท้ความงามตัวจริง
เราควรทราบอะไรบ้างเกี่ยวกับ โบท็อกซ์
แม้จะเป็นเพื่อนแท้ความงามที่มาพร้อมความมหัศจรรย์ที่เราต่างปลาบปลื้มใจ แต่การทำความเข้าใจในธรรมชาติของสารแห่งความงดงามชนิดนี้ ก็มีความสำคัญเช่นกัน
-
โบท็อกซ์ (Botox) จะออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราว ริ้วรอยที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้าจึงลดลงได้
-
โบท็อกซ์ (Botox) ให้ผลลัพธ์ระยะสั้น 4-6 เดือน หรือ 12 เดือน ขึ้นอยู่แบรนด์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากการฉีด รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต
-
โบท็อกซ์ (Botox) จะค่อยๆ มอบผลลัพธ์ทีละนิด โดยภายหลังการฉีดจะพบว่าริ้วรอยค่อยๆ ลดลง หลังจากผ่านช่วงหนึ่งเดือนแรกที่โบท็อกซ์เซ็ทตัวแล้ว จึงจะปรากฏผลลัพธ์ที่งดงามขึ้นอย่างชัดเจน

โบท็อกซ์ (Botox) แบรนด์ที่น่าสนใจ
ปัจจุบันนี้มี โบท็อกซ์ (Botox) หลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ตามคุณสมบัติเฉพาะตัว และงบประมาณที่มีในกระเป๋า แต่ทั้งนี้ผู้ที่จะกำนัลผลลัพธ์แห่งความงามนั้นได้ ก็ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นด้วย
-
Aestox โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่ในวงการความงามเรานำมาใช้ในการช่วยปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยก่อนวัย
-
Neuronox เป็นโบท็อกซ์เกาหลี ที่จะนำ Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ออริจินัล มาใช้ในการผลิตตัวยา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ตัวเดียวกับโบท็อกซ์ Allergan อเมริกา จึงทำให้ตัวยามีคุณภาพที่คล้ายคลึงกัน ทั้งการกระจายตัวยา การออกฤทธิ์
-
Nabota เป็นโบท็อกซ์ (Botox) สัญชาติเกาหลีที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (USFDA) นับเป็นโบท็อกซ์ (Botox) พรีเมี่ยมจากเกาหลีที่มีความบริสุทธิ์และมอบผลลัพธ์ที่ชัดเจน ออกฤทธิ์ได้ไว และผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 4-8 เดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิต
-
Xeomin เป็นโบท็อกซ์ (Botox) สัญชาติเยอรมัน เป็นโบท็อกซ์ (Botox) ที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากโปรตีนคอมเพล็กซ์ ความโดดเด่นของโบท็อกซ์ (Botox) แบรนด์นี้ คือการพัฒนามาเพื่อไม่เกิดการดื้อยา จึงไม่ต้องกังวลใจเรื่องผลลัพธ์ในระยะยาว ส่วนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงทีละนิด มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงจนเกินไป และอยู่ต่อเนื่องได้ประมาณ 6 เดือน
-
Allergan เป็นโบท็อกซ์ (Botox) จากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยกย่องเรื่องคุณภาพสูง มอบทั้งความปลอดภัย และความเป็นธรรมชาติ โดยจะค่อยๆ ออกฤทธิ์ และพบว่าเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในช่วงเดือนที่ 2-3 หลังการฉีด หลังจากนั้นผลจะอยู่ต่อเนื่องยาวนานประมาณ 8-12 เดือน หรืออาจยาวกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ชีวิต นับเป็นโบท็อกซ์ (Botox) แบรนด์ที่ให้ผลยาวนานที่สุด ในขณะเดียวกันราคาก็สูงที่สุด แต่แลกมากับความน่าประทับใจ
โบท็อกซ์ควรฉีดตรงไหน และช่วยอะไรได้บ้าง ?
การฉีด Botox หรือสาร Botulinum toxin ในวงการเสริมความงามจะช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก และสามารถฉีดเพื่อปรับรูปหน้าพร้อมทั้งคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าได้หลากหลายตำแหน่ง ได้แก่
- โบท็อกซ์กราม สามารถปรับให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงได้ โดยโบท็อกซ์จะไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีแก้มตอบและใบหน้าหย่อนคล้อยเยอะ
- โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับ แนวกระดูกกรามคมชัด ใบหน้าได้รูปมากขึ้น และยังสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวได้อีกด้วย
- โบท็อกซ์ปีกจมูก ช่วยจมูกที่บานจากปีกจมูกกว้างดูแคบลง รูจมูกเล็กลง
- โบท็อกซ์รักแร้ การฉีดโบท็อกซ์รักแร้ คือ การฉีดโบท็อกซ์บริเวณใต้วงแขน เพื่อลดการทำงานของ ต่อมเหงื่อในผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก หลังจาก ฉีดจะเห็นผลลัพธ์ว่า เหงื่อจะออกน้อยลง ส่งผลให้กลิ่นตัวลดลง และช่วยให้ผิวบริเวณรักแร้ ดูเรียบเนียนขึ้น
- โบท็อกซ์ริ้วรอย แก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าได้หลายจุด เป็นริ้วรอยที่เกิดตอนแสดงสีหน้า ได้แก่ ระหว่างคิ้ว ใต้ตา หางตา และหน้าผาก รวมถึงสามารถทำให้ริ้วรอยตื้นๆบนผิวดูดีขึ้นทางอ้อม จากการที่ผิวตึงขึ้น

บริเวณที่ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์แม้จะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อและเกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมามากมาย แต่ยังมีบางบริเวณที่ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์หรือควรฉีดด้วยความระมัดระวัง ได้แก่
-
บริเวณเปลือกตา กล้ามเนื้อบริเวณนี้มีหน้าที่ในการเปิดเปลือกตาขึ้น หากฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้จะทำให้หนังตาตกได้
-
เหนือคิ้ว เป็นหนึ่งในบริเวณที่ฉีดเพื่อปรับทรงคิ้วให้ดูยกขึ้น แต่หากฉีดผิดตำแหน่งจะทำให้หนังตาและคิ้วตกได้
-
ริ้วรอยใต้ตา ไม่แนะนำในคนไข้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย เพราะจะทำให้เห็นถุงใต้ตาชัดขึ้น
-
โหนกแก้ม บริเวณนี้เป็นวิธีการฉีดลิฟหน้าเพื่อให้ผิวช่วงโหนกแก้มดูยกขึ้น แต่หากฉีดผิดตำแหน่งอาจไปโดนกล้ามเนื้อในการฉีกยิ้มทำให้ยิ้มเบี้ยวได้
-
ร่องแก้ม ไม่แนะนำฉีดโบท็อกซ์ในการแก้ไขปัญหาร่องแก้ม เนื่องจากจะทำให้ยิ้มไม่ออก รอยยิ้มจะดูเปลี่ยนไปทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ
-
ร่องมุมปาก เป็นบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้มุมปากยกขึ้น ลดร่องน้ำหมาก แต่หากฉีดผิดบริเวณหรือปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ปากเบี้ยวได้
ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล?
โดยทั่วไปแล้วหลังจากฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะค่อย ๆ เห็นผลการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นประมาณ 1-2 เดือนหลังฉีดโบท็อกซ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดด้วย เช่น
-
โบท็อกซ์ริ้วรอยจะเริ่มรู้สึกตึง ๆ ขึ้นภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 14 วันหลังฉีด
-
โบท็อกซ์กรามเมื่อกัดกรามแล้วจะเริ่มรู้สึกว่านิ่มลงประมาณ 1 อาทิตย์
-
โบท็อกซ์รักแร้จะเริ่มเห็นผลใน 72 ชั่วโมง

AESTOX
โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีใต้ เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่ในวงการความงามเรานำมาใช้ในการช่วยปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยก่อนวัย
Aestox botox ก็เป็นอีกยี่ห้อโบท็อกซ์เกรดพรีเมียมสัญชาติเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย เนื่องจากเป็นโบท็อกซ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ นิยมนำมาใช้ฉีดเพื่อลดกราม ปรับหน้าเรียว ลดริ้วรอยต่างๆ บริเวณใบหน้
Aestox botox คืออะไร?
โบท็อกซ์เอสท็อก (Aestox) คือ โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ที่มีส่วนประกอบสำคัญคือ Botulinum Toxin Type A (โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ) ซึ่งนิยมใช้ในวงการความงามเพื่อช่วยปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย
Aestox นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยบริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด ผู้นำเข้ายาและเครื่องมือแพทย์จากทั่วโลก
โบท็อกซ์ Aestox ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตจากทั้งองค์การอาหารและยาประเทศเกาหลี (KFDA) และองค์การอาหารและยาประเทศไทย (THFDA)
ปัจจุบัน Aestox ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่
กล่องสีชมพู ขนาด 50 ยูนิต
กล่องสีฟ้า ขนาด 100 ยูนิต
กล่องสีส้ม ขนาด 200 ยูนิต
โบท็อกซ์ Aestox ดีไหม มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง ?
เมื่อพูดถึงเรื่องของคุณภาพ ต้องบอกเลยว่า Aestox Botox ผ่านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 5 ปี รวมถึงมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมจากสถาบันที่มีมาตรฐานระดับสากล ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก ทำให้ได้ตัวยาที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.5% ซึ่งความบริสุทธิ์นี้เองมีส่วนช่วยลดโอกาสในการดื้อยาได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้การฉีดโบท็อกซ์ Aestox มีโอกาสเกิดการดื้อโบท็อกซ์ได้น้อยมาก
นอกจากนี้ Aestox ยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา ทั้งของประเทศไทย (THFDA) และประเทศเกาหลีใต้ (KFDA) มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน
คุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่นของโบท็อกซ์ Aestox นอกจากจะมีตัวยาที่มีความบริสุทธิ์สูงมากกว่า 99.5% แล้ว ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการออกฤทธิ์ที่รวดเร็ว เห็นผลไวหลังฉีด ให้ความรู้สึกที่ผิวตึงกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือตึงจนเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีแบรนด์อื่นๆ
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ Aestox คือ การกระจายตัวยาในวงแคบ ออกฤทธิ์ตรงจุด ช่วยลดโอกาสที่ตัวยาจะไหลหรือกระจายไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฉีดเพื่อลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย รวมถึงลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้ว และริ้วรอยบนหน้าผาก

NEURONOX
เป็นโบท็อกซ์เกาหลี ที่จะนำ Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ออริจินัล มาใช้ในการผลิตตัวยา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ตัวเดียวกับโบท็อกซ์ Allergan อเมริกา จึงทำให้ตัวยามีคุณภาพที่คล้ายคลึงกัน ทั้งการกระจายตัวยา การออกฤทธิ์
Neuronox botox คืออะไร?
โบท็อกซ์ Neuronox (นิวโรน็อกซ์) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “โบนิว” เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ซึ่งถือเป็นโบท็อกซ์ตัวแรกของประเทศเกาหลีที่เริ่มผลิตขึ้นตั้งแต่ปี 2006 โดยใช้สายพันธุ์โบท็อกซ์ออริจินัล Hall A Hyper ในกระบวนการผลิต คิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Medytox
Neuronox ยังเป็นโบท็อกซ์เกาหลีรุ่นแรกๆ ที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2012 โดยบริษัท เมดิเซเลส จำกัด และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) ทั้งในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และยุโรป
ปัจจุบัน Aestox ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่
-
กล่องสีชมพู ขนาด 50 ยูนิต
-
กล่องสีฟ้า ขนาด 100 ยูนิต
-
กล่องสีส้ม ขนาด 200 ยูนิต
โบท็อกซ์ Aestox ดีไหม มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง ?
โบท็อกซ์ Neuronox (โบนิว) เป็นโบท็อกซ์เกาหลีเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้โบท็อกซ์สายพันธุ์อเมริกา หรือสายพันธุ์ Hall A Hyper โดยมีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาควบคุมกระบวนการผลิต เพื่อให้โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง โมเลกุลของโบท็อกซ์มีขนาดใกล้เคียงกัน และไม่มีโปรตีนอื่นๆ ปนเปื้อน ทำให้ Neuronox มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.7% ด้วยความบริสุทธิ์นี้ ทำให้โบท็อกซ์ Neuronox มีโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ได้น้อยมาก และสามารถเห็นผลได้อย่างแม่นยำและดีหลังจากการฉีด
โบท็อกซ์ Aestox อยู่ได้กี่เดือน ?
หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ Neuronox (โบนิว) ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 4 – 6 เดือน แต่ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์อาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถส่งผลต่อระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานขึ้น
หรือสั้นลง

NABOTA
เป็นโบท็อกซ์ (Botox) สัญชาติเกาหลีที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (USFDA) นับเป็นโบท็อกซ์ (Botox) พรีเมี่ยมจากเกาหลีที่มีความบริสุทธิ์และมอบผลลัพธ์ที่ชัดเจน ออกฤทธิ์ได้ไว และผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 4-8 เดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิต
Nabota botox คืออะไร?
โบท็อกซ์นาโบตะ (Nabota Botox) จากประเทศเกาหลี คือ สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ และได้รับความนิยมในวงการเสริมความงามเพื่อปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ โดยโบท็อกซ์ Nabota ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย
Botox Nabota ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical มากว่า 30 ปี จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ กระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
โบท็อกซ์นาโบตะได้รับการยอมรับในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในปี 2021 และในประเทศไทยก็มีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายโดยบริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
สำหรับความแตกต่างระหว่างกล่องแดงและกล่องดำของ Nabota Botox คือ จำนวนยูนิตในแต่ละกล่อง กล่องดำมีขนาด 100 ยูนิต ส่วนกล่องแดงมีขนาด 200 ยูนิต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไขและจำนวนยูนิตที่เหมาะสมสำหรับแต่ละตำแหน่ง
โบท็อกซ์ Nabota ดีไหม มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง ?
โบท็อกซ์ Nabota เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ในปี 2018 นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก อย. เกาหลี (Korea FDA) และ อย. ไทย (TH FDA) อีกด้วย
จุดเด่นของ Botox Nabota คือการใช้เทคโนโลยี Hi-PURE Technology ที่ได้รับการพัฒนาและจดสิทธิบัตรในปี 2013 ซึ่งทำให้ตัวยาโบท็อกซ์ Nabota มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ช่วยให้การปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ลดริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์ Nabota ยังเห็นผลไว และมีโอกาสเกิดอาการดื้อยาได้น้อยมาก โดยมีความปลอดภัยสูง แต่การฉีดโบท็อกซ์ควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและเข้าใจในเรื่องกายวิภาค เพราะหากฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือผิดตำแหน่ง อาจทำให้ไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
โบท็อกซ์ Nabota อยู่ได้กี่เดือน ?
ต้องขอแจ้งว่า การฉีดโบท็อกซ์ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คงอยู่ถาวร แต่จะอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หลังจากฉีด Botox Nabota ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ระยะเวลาการคงผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ การดูแลหลังการฉีด และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน

XEOMIN
เป็นโบท็อกซ์ (Botox) สัญชาติเยอรมัน เป็นโบท็อกซ์ (Botox) ที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากโปรตีนคอมเพล็กซ์ ความโดดเด่นของโบท็อกซ์ (Botox) แบรนด์นี้ คือการพัฒนามาเพื่อไม่เกิดการดื้อยา จึงไม่ต้องกังวลใจเรื่องผลลัพธ์ในระยะยาว ส่วนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงทีละนิด มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงจนเกินไป และอยู่ต่อเนื่องได้ประมาณ 6 เดือน
Xeomin botox คืออะไร?
โบท็อก (Botox) เป็นชื่อที่คนทั่วโลกคุ้นเคยและเข้าใจกันว่าเป็นสาร Botulinum toxin ที่ใช้ลดขนาดกรามและริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว Botox เป็นชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin ชนิดหนึ่งที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Allergan (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งหลายบริษัทก็สามารถผลิตสาร Botulinum toxin นี้ได้เช่นกัน โดยพัฒนาให้มีโครงสร้างโมเลกุลที่แตกต่างกันและตั้งชื่อทางการค้าที่เป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง เช่น Xeomin ซึ่งผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA จากประเทศเยอรมนี
โบท็อกเยอรมัน Xeomin เป็นโบท็อกซ์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ เนื่องจากทางบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยี XTRACT Technology™
ที่ช่วยกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุลของท็อกซิน ทำให้โมเลกุลของโบท็อกมีขนาดเล็กลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี
อีกทั้งการกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโบท็อกทำให้ Xeomin มีความบริสุทธิ์สูง และโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ต่ำ งานวิจัยยังยืนยันว่า การฉีด Xeomin ในกรณีที่มีประวัติการดื้อโบท็อกซ์ พบว่าได้ผลดีกว่าฉีดยี่ห้ออื่น ๆ หากเว้นระยะการฉีดไปแล้ว 2-3 ปี จากผลการทดลอง พบว่า 99.4% ของกลุ่มทดลองไม่พบการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต้านโบท็อก (NAbs) และ 0.6% พบว่ามีการสร้างสารต้านโบท็อก แต่โบท็อกยังสามารถออกฤทธิ์ได้ดี ดังนั้นสามารถสรุปได้ว่า Xeomin ไม่มีการแสดงออกของการดื้อโบท็อกซ์ในการทดลองนี้
ฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin ตำแหน่งไหนได้บ้าง?
โบท็อกซ์ Xeomin พัฒนาโดยการนำข้อดีของ Allergan และ Dysport มารวมกัน ทำให้คุณสมบัติของ Xeomin อยู่ในระดับกึ่งกลางระหว่างโบท็อกซ์จากอเมริกาและอังกฤษ โดยมีความบริสุทธิ์สูงและสามารถกระจายตัวได้ดี ฉีดแล้วไม่ทำให้ตึงเกินไป เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยและการยกกระชับกรอบหน้า (Dermolift) นอกจากนี้ยังสามารถฉีดในตำแหน่งต่าง ๆ ได้เหมือนกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ และเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้กล้ามเนื้อลดขนาดมากเกินไป หลังฉีดจะรู้สึกเบาสบาย ไม่ตึงแข็ง
โบท็อกซ์ Xeomin สามารถใช้ในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น:
-
ลดกราม หน้าเรียว
-
ลดกล้ามเนื้อแขน
-
ลดกล้ามเนื้อน่อง
ข้อดีของโบท็อกเยอรมัน Xeomin
โบท็อกซ์เยอรมัน Xeomin เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง เนื่องจากมีการกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุล จุดเด่นของโบท็อกซ์ยี่ห้อนี้คือ โอกาสที่ร่างกายจะเกิดสารต้านโบท็อกซ์ (Antibody) ต่ำ แม้ต้องฉีดโบท็อกซ์หลายครั้ง จึงเหมาะทั้งการใช้รักษาโรคและเสริมความงาม นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยรองรับว่า โบท็อกซ์ Xeomin ให้ผลดีในเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อกซ์ โดยเฉพาะเมื่อเว้นระยะการฉีดไปแล้ว 2-3 ปี

BOTOX ALLERGAN
เป็นโบท็อกซ์ (Botox) จากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยกย่องเรื่องคุณภาพสูง มอบทั้งความปลอดภัย และความเป็นธรรมชาติ โดยจะค่อยๆ ออกฤทธิ์ และพบว่าเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในช่วงเดือนที่ 2-3 หลังการฉีด หลังจากนั้นผลจะอยู่ต่อเนื่องยาวนานประมาณ 8-12 เดือน หรืออาจยาวกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ชีวิต นับเป็นโบท็อกซ์ (Botox) แบรนด์ที่ให้ผลยาวนานที่สุด ในขณะเดียวกันราคาก็สูงที่สุด แต่แลกมากับความน่าประทับใจ
Botox Allergan คืออะไร?
Botox Allergan เป็นชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin A ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่นำสาร Botulinum toxin มาใช้ในวงการแพทย์เพื่อรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท และเสริมความงาม เช่น การลดริ้วรอย ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ปรับหน้าเรียว ลดเหงื่อ และฟื้นฟูผิว
Botox Allergan เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามทั่วโลก โดยมีงานวิจัยรองรับมากกว่า 3,500 ชิ้น และเป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ และมีโอกาสดื้อยาน้อยเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ตั้งแต่ปี 1989 โบท็อกซ์ Allergan ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก USFDA และจากอย.ในหลายประเทศ ซึ่งถือเป็นโบท็อกซ์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง และเป็นต้นแบบให้กับโบท็อกซ์หลาย ๆ แบรนด์
Botox Allergan ทำงานอย่างไร ?
เมื่อฉีด Botox Allergan เข้าไปในบริเวณกล้ามเนื้อ ตัวยาจะยับยั้งการปล่อยสาร Acetylcholine ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อเพื่อให้หดตัว เมื่อการส่งสัญญาณนี้ถูกหยุด กล้ามเนื้อจะไม่สามารถหดตัวได้ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อลดลง
ผลลัพธ์ที่ได้คือริ้วรอยที่ลดลง หากฉีดที่กล้ามเนื้อกราม กรามจะมีขนาดเล็กลงและกรอบหน้ากระชับ ช่วยให้หน้าเรียวเป็นวีเชฟ นอกจากนี้ Botox Allergan ยังสามารถใช้ในการลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขนและกล้ามเนื้อน่องได้ด้วย
Botox allergan ดีไหม ?
ตัวยาของโบท็อกซ์ Allergan มีความแม่นยำสูง ไม่กระจายตัวไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ ซึ่งทำให้สามารถใช้แก้ไขปัญหาหลายๆ อย่าง เช่น ริ้วรอยที่หน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้ว หรือแม้แต่การลดกล้ามเนื้อกราม การยกกระชับกรอบหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Allergan คือเป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกของโลก ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยสูง ผลิตด้วยวิธีการสุญญากาศ (Vacuum) ซึ่งต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นที่ใช้วิธีการฟรีซดราย (Freeze-drying) ทำให้โบท็อกซ์ Allergan มีความเสถียร และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีโบท็อกซ์ allergan
-
มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
-
โอกาสดื้อโบท็อกซ์ต่ำ
-
ลดริ้วรอยได้ดี
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
-
เห็นผลลัพธ์หลังจากฉีดไว
Botox Allergan ฉีดจุดไหน ?
บริเวณที่นิยมฉีด Botox Allergan มีความหลากหลาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นจุดที่มีการขยับหน้าบ่อย ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยและปัญหาอื่น ๆ
ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ดังนี้:
ฉีดลดริ้วรอย : ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า เช่น หางตา, รอยตีนกา, ริ้วรอยหน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, รอบปาก, รอยย่นหัวคิ้ว และคอ
ฉีดลดกรามหน้าเรียว : ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและมีกรอบหน้าชัดเจน
โบท็อกซ์ลิฟหน้า : ช่วยยกกระชับผิวรอบกรอบหน้า เพิ่มมิติและทำให้รูปหน้าคมชัดขึ้น
โบท็อกปีกจมูก : ยกปลายจมูกให้ดูสูงขึ้น, ทำให้จมูกดูเรียว หรือช่วยลดขนาดปีกจมูก แก้ปัญหาจมูกบานและรูจมูกกว้าง
ฉีดลดเหงื่อ : ใช้ในบริเวณรักแร้, ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า เพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อและควบคุมกลิ่นตัว โดยยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์
โบท็อกซ์สำหรับน่อง : ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อน่องที่ปูดหรือเป็นมัด ทำให้ขาดูเรียวขึ้น
โบท็อกซ์สำหรับไมเกรน : บรรเทาอาการปวดศีรษะและลดความถี่ของอาการปวดไมเกรน พร้อมกับลดริ้วรอยในบริเวณที่ฉีด
โบท็อกซ์สำหรับออฟฟิศซินโดรม : บรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับออฟฟิศซินโดรม เช่น ปวดตึง ไหล่ยึด